ลดบวมช้ำ หลังศัลยกรรม ด้วยบัวบก
บัวบก เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก อายุยืน อยู่ในจำพวกผัก หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ผักหนอก เป็นพืช ประเภทเลื้อย ลำต้นเป็นไหลทอด นอนตามพื้นดิน ถูกหุ้มไปด้วย ก้านใบยาวโดยรอบ ในประเทศไทย พบบัวบกได้ทั่วไปในเขตพื้นที่ชุ่มน้ำ ทั่วทุกภาคในประเทศ
บัวบก เป็นสมุนไพรแก้ช้ำในของไทย ใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นยาอายุวัฒนะ มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในกระดูกเอ็นและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ทำให้หลอดเลือดแข็งแรง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดเล็ก ๆ (หลอดเลือดฝอย)ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ เช่น สมอง ตา ไต ได้ดีขึ้น ช่วยให้แผลหายเร็ว บำรุงสมอง เพิ่มความจำ บัวบกเป็นพืชสมุนไพรที่สามารถนำ มาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง หลายรูปแบบ ตั้งแต่ใช้ต้นหรือใบสดทำ เป็นอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะน้ำ บัวบก ไปจนถึงแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งเครื่องสำอาง
บัวบก มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคลอลาเจน ที่จะเกี่ยวข้องในกระบวนการสมานแผลของร่างกาย ที่จะมีการสร้างคลอลาเจน เนื้อเยื่อ และเส้นเลือดต่าง ๆขึ้นมาทดแทนส่วนที่ขาดหายไป ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของบัวบกนี้ จะทำให้ กระบวนการสมานแผลของร่างกายเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น แผลหายเร็วขึ้น และไม่เกิดรอยแผลเป็นนูนตามมา อีกทั้งในใบบัวบกยังมี สารไตรเทอร์ปีนส์ (Triterpenes) ซึ่งช่วยรักษาบาดผลสดและแผลเปื่อยได้เป็นอย่างดี เช่น แผลหลังจากการศัลยกรรม แผลจากการผ่าตัด รอยไหม้ รวมทั้งแผลกดทับ โดยช่วยขจัดเชื้อหนองออกจากแผล สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้แผลอักเสบ ลดอาการบวม แล้วยังมีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดฝอย ซึ่งมีส่วนช่วยให้อาการช้ำและบาดแผลหายเร็วขึ้น อีกทั้งยังมีงานวิจัยทั้งการทดลองในสัตว์ และการทดลองทางคลินิก
วิธีการรับประทานบัวบกลดอาการบวมช้ำ หรือฟื้นฟูหลังการผ่าตัด
หลังจากการศัลยกรรม หลังการผ่าตัด หรือเริ่มเป็นแผล ให้เริ่มรับประทานบัวบก ที่วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า หรือเย็น
ข้อควรระวังในการรับประทาน
1. สามารถรับประทานติดต่อกันได้ ไม่เกิน 20 วัน เนื่องจากจะเป็นพิษต่อตับ
2. อาจทำให้เกิดอาการ อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ และปวดศรีษะได้
วิธีการทาครีมบัวบกช่วยป้องกันรอยแผลเป็น
สามารถทาครีมบัวบกลงบนแผลได้โดยตรง สามารถได้ทาจนกว่ารอยแผลจะหาย
บัวบกเป็นพืชสมุนไพรที่ใช้มาเป็นระยะเวลานาน และมีประสิทธิผลดีจนเป็นที่ยอมรับ ซึ่งบัวบกเป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ (บัญชียาจากสมุนไพร) มีข้อบ่งใช้เพื่อทาสมานแผล รับประทานแก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ช้ำใน และยังมีสรรพคุณอื่น ๆ เช่น ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ย้อนอายุ และวัยเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยบำรุงรักษาสายตา ฟื้นฟูรอบดวงตา รวมทั้งช่วยบำรุงประสาท และสมอง ช่วยทำให้ความทรงจำดีขึ้น และ ทำให้ความจำดีขึ้น และ ทำให้สติปัญญาดีขึ้น
เรียบเรียงโดย พท.ภ.จิราภา ทองพึ่งสุข
แหล่งข้อมูล
1.กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
2.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปกร