Article

น้ำมันมะพร้าว คือ น้ำมันที่ได้จากการสกัดแยกน้ำมันจากเนื้อของมะพร้าว

โดยผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวที่จำหน่ายในท้องตลาดและได้รับความสนใจในขณะนี้ คือ Virgin Coconut Oil หรือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

 

           จากการศึกษาพบว่า ตัวไขมัน ที่อยู่ใน "น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น" เป็นไขมันอิ่มตัวที่มีลักษณะโครงสร้าง ที่แตกต่างจากไขมันอิ่มตัวที่พบในไขมันจากสัตว์ หรือน้ำมันปาล์ม ไขมันของน้ำมันมะพร้าว จะมีลักษณะของกรดไขมันที่มีความยาวสายขนาดกลาง ร่างกายสามารถดูดซึมได้ทันที ส่งไปที่ตับ และเปลี่ยนกรดไขมันเป็น "สารคีโตน" ซึ่งเป็นสารที่เป็นแหล่งพลังงานสำคัญของสมอง ช่วยในเรื่องของความจำ โรคอัลไซเมอร์ และช่วยในเรื่องของสมาธินอกจากนี้กรดไขมันมะพร้าว ยังมีส่วนช่วยให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น มีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา

           ปัจจุบันคนไทยนิยมนำ "น้ำมะพร้าวสกัดเย็น" มาทาน อม กลั้วปาก กลั้วคอ เพื่อสุขภาพของร่างกายและช่องปาก แต่ในการอม กลั้วปาก กลั้วคอ นั้นสามารถก่อให้เกิดอันตรายจากการที่ละอองของน้ำมันหลุดเข้าไปในปอด ทำให้เกิดปอดอักเสบได้

          น้ำมันมะพร้าวสำลักง่ายยิ่งกว่าน้ำ เพราะมีมวลที่เบากว่า เมื่อเกิดอาการสำลัก น้ำมันมะพร้าว จะเล็ดลอด ลงไปในปอดกลายเป็นสิ่งแปลกปลอม  ทำให้ปอดอักเสบ มีอาการไอ เหนื่อยหอบ 

 

“นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เป็นประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย โพสต์ให้ความรู้ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ถึงกรณีผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปี มีประวัติอมน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 15 นาทีทุกวันนานถึง 7-8 ปี เพราะเชื่อสรรพคุณว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพของช่องปากและฟัน มาโรงพยาบาลด้วยอาการไอ เหนื่อย 10 วัน ก่อนหน้านี้แข็งแรงดี เอ็กซเรย์ปอดเห็นเงาฝ้าขาวผิดปกติของปอดด้านขวาเข้าได้กับปอดอักเสบ ทำการส่องกล้องเข้าไปดูในปอดและส่งสิ่งตรวจในปอดพบน้ำมันในปอด หลังจากที่หยุดอมน้ำมันมะพร้าวอาการไอ เหนื่อย และเอกซเรย์ปอดค่อยๆ ดีขึ้น ใช้เวลานานถึง 3 เดือน” 

 

           ดังนั้นผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคทางสมองหรือมีปัญหาด้านการกลืน ผู้ที่สำลักง่าย จะมีความเสี่ยงสูงต่อการสำลัก นำละอองน้ำมันลงปอดจนทำให้เป็นโรคปอดอักเสบ จึงไม่ควรทานน้ำมันมะพร้าวเพียว ๆ  หรือนำน้ำมันมะพร้าวมากลั้วคอ

วิธีการรับประทานน้ำมันมะพร้าว  สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านการกลืน หรือสำลักง่าย

       เพื่อการดูแลสุขภาพทั่วไป : ควรรับประทานในขณะที่ท้องว่าง เช่น ตอนเช้าหลังตื่นนอน โดยปริมาณที่แนะนำในการรับประทานคือ 2 ช้อนโต๊ะ/วัน

       เพื่อการควบคุมน้ำหนัก : รับประทานไม่เกินครั้งละ  2 ช้อนโต๊ะ/มื้ออาหาร สามารถทานได้ 1 – 2 มื้อต่อวัน ควรรับประทานก่อนมื้ออาหาร 30 – 60 นาที ควบคู่กับการควบคุมอาหาร

       หากใช้ในกรณี อมกลั้ว ในช่องปาก :  แนะนำให้ใช้ปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ โดยอมกลั้วในช่องปาก 15-20 นาที จึงค่อยบ้วนทิ้ง แล้วแปรงฟัน  
วิธีการรับประทานน้ำมันมะพร้าว  สำหรับผู้สูงอายุ มีปัญหาด้านการกลืน สำลักง่าย  แนะนำให้ทานในรูปแบบแคปซูลตามขนาดที่ระบุ

 

เลือกซื้อน้ำมันมะพร้าวที่คุณภาพดี

           น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มีกรดไขมัน และสารอาหารอยู่มาก เหมาะสำหรับ การนำมารับประทาน แบบเพียว ๆ เพื่อให้ได้ คุณค่าทางอาหารแบบเต็ม ๆ เนื่องจากไม่ได้ผ่านการปรุงแต่ง หรือผ่านกระบวนการทางเคมีใดเลย จึงได้สรรพคุณมากกว่า น้ำมันมะพร้าว ที่ผ่านการปรุงแต่ง

           น้ำมันมะพร้าวที่ดีจะต้องมีลักษณะ ใส ไม่มีสี  โปร่งแสง ไม่มีการตกตะกอน มีกลิ่นหอม ของมะพร้าว ไม่มีกลิ่นหืน หรือเปรี้ยว แม้ว่าจะมีการเปิดใช้ หลายครั้ง  และที่สำคัญที่สุด จะต้องมี การรับรองมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์จาก GMP  และ HACCP มาตราฐานการผลิต ที่มีมาตรการป้องกันอันตราย ที่อาจได้รับจากการบริโภค อาหารต่อผู้บริโภค