ฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในผู้ติดเชื้อระยะแรกได้ผล

เดินหน้าวิจัยฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ระยะ 2 หลังรักษาผู้ติดเชื้อระยะแรกได้ผล

          วันที่ 19 เมษายน 2563  ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมด้วยดร.สุภาพร  ภูมิอมร ผู้อำนวยการสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงผลการวิจัยฟ้าทะลายโจรกับไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นความร่วมมือของกรมการแพทย์แผนไทยฯ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม โดยการสนับสนุนสารสกัดฟ้าทะลายโจร และฟ้าทะลายโจรแคปซูล จากบริษัท ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย จำกัด           

 

       

          นพ.ปราโมทย์กล่าวว่า ผลการศึกษาสรุปได้ว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ในการป้องกัน เซลล์จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงไม่แนะนำให้รับประทานเพื่อการป้องกันโรค โดยที่ยังไม่มีอาการเพราะไม่มีผลในการป้องกัน แต่ให้รับประทานทันทีเมื่อเริ่มมีอาการคล้ายอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ (flu-like symptoms) ได้แก่ มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ก่อโรคไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจอื่น รับประทานครั้งละ 4 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง (ครั้งละ ประมาณ 1,500 มิลลิกรัม) หลังอาหารและก่อนนอน

ส่วนสารสกัดฟ้าทะลายโจร ครั้งละ 1 หรือ 2 แคปซูล เพื่อให้ได้รับสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ประมาณ 20 มิลลิกรัม/ครั้ง วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร การรับประทานยาทั้งสองแบบในขนาดที่แนะนำ จะให้สารแอนโดรกราโฟไลด์ประมาณ 60 มิลลิกรัม/วัน แนะนำให้มียาฟ้าทะลายโจรเป็นยาประจำตัว/ประจำบ้าน อาจใช้ร่วมกับยาพาราเซตามอลได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ให้รีบพบแพทย์  

       

          ทั้งนี้ ห้ามใช้ยาฟ้าทะลายโจรในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร และผู้ป่วยที่มีอาการไข้เจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น หากมีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร เช่น เกิดผื่น ลมพิษ หน้าบวม ริมฝีปากบวม หายใจลำบาก ให้หยุดใช้ยาทันทีและไม่ใช้อีก รวมทั้งควรระวังในผู้ที่ใช้ยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันโลหิต และการใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้แขนขาชา หรืออ่อนแรง

          ด้านดร.สุภาพร ภูมิอมร  ผู้อำนวยการสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการศึกษาศึกษาฤทธิ์ต้านไวรัสโควิด-19 ของสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในหลอดทดลอง โดยทำการศึกษาจากสารสกัดหยาบเทียบกับแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่เป็นสารสำคัญ พบว่า กลไกต้านไวรัสโควิด-19 สามารถทำลายไวรัสโดยตรง และต้านไม่ให้ไวรัสเพิ่มจำนวนเซลล์ได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ในการชักนำให้เซลล์หลั่งสารที่ช่วยยับยั้งไวรัสโควิด-19 จึงไม่แนะนำให้รับประทานเพื่อการป้องกันโรค และจำเป็นต้องทำการศึกษาวิจัยในคนต่อไป

 

วันที่ 28 มิถุนายน 2563

กรมการแพทย์แผนไทยฯ เผยคืบหน้าวิจัยยาฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด-19 ทดลองในคน 2 รพ. “รพ.สุมทรปราการ-รพ.บางละมุง” เบื้องต้นศึกษาความปลอดภัย

จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้มีการทดลองยาฟ้าทะลายโจร เพื่อนำมาใช้ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งผลทดลองในหลอดทดลองเบื้องต้น พบว่า เมื่อไวรัสเข้าเซลล์แล้ว ฟ้าทะลายโจรมีผลฆ่าไวรัสโควิด-19 ได้โดยตรง และทำให้ไวรัสไม่เพิ่มจำนวนในเซลล์ และจะมีการเดินหน้าทดลองในมนุษย์ต่อไปนั้น

นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และองค์การเภสัชกรรม(อภ.) โดยการสนับสนุนสารสกัดฟ้าทะลายโจรจาก บริษัท ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย จำกัด ดำเนินการศึกษานำร่องผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูงต่อผู้ป่วยโรคโควิด-19
              โดย ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ต้องเป็นผู้ป่วยที่มีอายุ 18 - 60 ปี และมีระดับความรุนแรงน้อย คือ มีอาการแสดงของระบบทางเดินหายใจเล็กน้อย เช่น ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ โดยไม่มีภาวะปอดอักเสบ รวมถึงได้รับการตรวจยืนยันการติดเชื้อ SARS-CoV-2 (COVID-19) ภายใน 72 ชั่วโมง หลังเริ่มมีอาการ

               แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยผลการศึกษาเบื้องต้นในผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่รับประทานสารสกัดฟ้าทะลายโจร ขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน   ร่วมกับการรักษาตามมาตรฐานการรักษาโรคด้วยยาปัจจุบัน       ตามมาตรฐานทางการแพทย์จากโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นการซักประวัติ การตรวจร่างกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ      หลังจาก ประเมินอาการทุกวัน พบว่า อาการดีขึ้น ตั้งแต่วันที่ 3 ของการได้รับสารสกัดดังกล่าว อาการไอ เจ็บคอ มีเสมหะ มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะ มีอาการดีขึ้น ไม่มีอาการข้างเคียง ซึ่งการวิจัยนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิกในผู้ป่วย ซึ่งได้รับการตรวจยืนยันว่า การติดเชื้อภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีอาการ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

จึงขยายการวิจัยต่อในคนเป็นระยะที่ 2 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้ยาสมุนไพรมากขึ้น

สารสกัดฟ้าทะลายโจร

 คำแนะนำ

  1. บรรเทาอาการเจ็บคอ
  2. บรรเทาอาการของโรคหวัด (common cold) เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

ขนาดและวิธีใช้

  • รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล เมื่อมีอาการ วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร

ข้อห้ามใช้

  • ห้ามใช้ ในผู้ที่มีอาการแพ้ ฟ้าทะลายโจร
  • ห้ามใช้ ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากอาจทำให้เกิดทารกวิรูปได้

คำเตือน

  • หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง
  • หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย หรือ มีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ ยา ควรหยุดใช้ และพบแพทย์
  • ควรระวังการใช้ร่วมกับสารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulants) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelets)
  • ควรระวังการใช้ร่วมกับยาลดความดันเลือดเพราะอาจเสริมฤทธิ์กันได้

อาการไม่พึงประสงค์

  • อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติของทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ เบื่ออาหาร วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น และอาจเกิดลมพิษได้

 

อ้างอิง     https://med.mahidol.ac.th/altern_med/th/km/19jun2020-1729  

                 http://kpo.moph.go.th/webkpo/tool/Thaimed2555.pdf 

                 https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/knowledge/files/0484.pdf

                 https://www.hfocus.org/content/2020/06/19650

                 https://fb.watch/2QSYmk4LQj/

                https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/04/141681/&fbclid=IwAR2glvqApa6t1F9E-Z3k18-kvtjFpAPvMwDtg_PW8UptHJoWffrc9Id3E_o